แหล่งท่องเที่ยว
วัดทุ่งเนินพยอม

ประวัติวัดทุ่งเนินพยอม

         อะแซหวุ่นกี้ ไปรบกับจีนที่เชียงตุงที่มีไพร่พลมากกว่ามาก แต่ที่สุดจีนก็ขอสงบศึก ทำให้อะแซหวุ่นกี้จึงเป็นวีรบุรุษของพม่า การที่พม่าติดพันศึกกับจีนทางเชียงตุง ทำให้ พระเจ้าตากมีโอกาสรวบรวมบ้านเมือง มีทหารเอกคือ เจ้าพระยาจักรี (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) กับ เจ้าพระยาสุรสีห์ (กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท) ที่พม่าตั้งฉายาว่า “พระยาเสือ”  พ.ศ. 2318 สมัยกรุงธนบุรี  อะแซหวุ่นกี้ทราบว่าทหารพม่าเกรงกลัวพระยาเสือกันมาก อะแซหวุ่นกี้ได้เดินทัพจากเมาะตะมะ ผ่านด่านแม่ละเมา ผ่านตาก ผ่านบ้านด่านลานหอย มุ่งตีพิษณุโลก จับกรมการเมืองสวรรคโลก 2 ได้คน ทราบว่าเจ้าพระยาสุรสีห์ ร่วมกับ เจ้าพระยาจักรียกไปตีเมืองเชียงใหม่จากพม่า แทนที่อะแซหวุ่นกี้จะยกทัพไปตีเอาเมือง กลับสั่งให้ทัพหน้าตั้งค่ายที่บ้านกงธานี  ทัพหลวงตั้งที่เมืองสุโขทัย และบอกเหล่าทหารว่า “เจ้าของเขาไม่อยู่ อย่าเพิ่งไปเหยียบเมืองเขาเลย” เพื่อแสดงว่าอะแซหวุ่นกี้ ... เป็นวีรบุรุษ เมื่อเจ้าพระยาจักรีกับเจ้าพระยาสุรสีห์ตีเมืองเชียงใหม่ได้ ได้ข่าวว่าพม่ายกเข้ามาจึงรีบยกทัพกลับพิษณุโลก อะแซหวุ่นกี้ก็ตามมาตั้งค่ายล้อมเมืองไว้ทั้ง 2 ฟากแม่น้ำ ต่างก็ส่งทหารออกรบกันทุกวัน ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ อะแซหวุ่นกี้จึงขอดูตัวเจ้าพระยาจักรีแล้วสรรเสริญว่า รูปก็งาม ฝีมือก็เข้มแข็ง สู้รบเราผู้เป็นผู้เฒ่าได้ จงอุตส่าห์รักษาตัวไว้ ภายหน้าจะได้เป็นกษัตริย์เป็นแท้ เอาเครื่องม้าทองสำรับหนึ่งกับสักหลาดพับหนึ่ง ดินสอแก้วสองก้อน น้ำมันดินสองหม้อ มาให้แล้วว่าจงรักษาเมืองไว้ให้มั่นคง เราจะตีเอาเมืองพิษณุโลกให้จงได้ในครั้งนี้ ไปภายหน้าพม่าจะตีเมืองไทยไม่ได้อีกแล้ว อะแซหวุ่นกี้ล้อมเมืองพิษณุโลกจนเกิดขาดแคลนเสบียงอาหาร เจ้าพระยาจักรีกับเจ้าพระยาสุรสีห์จึงตีฝ่าวงล้อมของพม่าไปรวบรวมพลที่เมืองเพชรบูรณ์ อะแซหวุ่นกี้เข้าเมืองพิษณุโลกได้เจอแต่เมืองที่ไม่มีอะไรเหลือ พร้อมทั้งได้รับข่าวพระเจ้ากรุงอังวะสิ้นพระชนม์แล้วจึงยกทัพกลับ วัดทุ่งเนินพยอม อยู่ในบริเวณที่อะแซหวุ่นกี้เข้ามาตั้งทัพตั้งอยู่บนเนินดินกลางทุ่ง มีต้นพยอมใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง วัดสร้างในสมัยสุโขทัย ถูกพม่าเผาทำลาย